“ถิ่นผ้าไหมหางกระรอกคู่ ผู้คนชุมชนน้ำใจงาม ล้นหลามความรักสามัคคี มากมีอารยธรรมโบราณ ตำนานคู่กำแพงดิน ถิ่นแดนนี้บ้านสนวนนอก”
ไปธุระที่บุรีรัมย์ครั้งนี้ ไปเพียงระยะสั้นๆ ไม่กี่วัน
เลยไม่ได้วางแผนที่จะท่องเที่ยวที่ไหน
แต่เนื่องจากตรงกับวันอาทิตย์ที่จะต้องเข้าโบสถ์
เลยถือโอกาสแวะขอพรพระ จาก 3 โบสถ์คาทอลิกที่หาเจอ
ดูเวลา และระยะทาง สามารถทำได้ เลยจัดไป
แล้ว "หมู่บ้านท่องเที่ยวไหม" มาเกี่ยวได้อย่างไร
"หมู่บ้านท่องเที่ยวไหม" มาเกี่ยวได้เนื่องจาก
ออกจากโบสถ์ "วัดแม่พระสายประคำศักดิ์สิทธิ์" ในตัวเมืองบุรีรัมย์
ผ่านทางแยก เห็นป้ายบอก "หมู่บ้านท่องเที่ยวไหม" สนวนนอก
ก็เลี้ยวในทันทีเลย
พอเลี้ยวมาได้สักพัก ก็คิดในใจ จะหลงป่าวเนี่ยเรา
และเมื่อเห็นป้ายนี้ข้างทาง จึงจอดรถเพื่อตั้งระบบนำทางใหม่
จากที่ตั้งไว้จะไป "วัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ นางรอง"
เปลี่ยนเป็น "หมู่บ้านท่องเที่ยวไหม สนวนนอก" ก่อน
ขับรถชมฟ้า ชมทุ่ง ชมไม้ข้างทางไป
พร้อมกับเสียงเพลงเหงาๆ ขับกล่อมในรถ
สักพักก็มาถึง ป้ายนี้ มีซุ้มทางเข้า พร้อมป้ายข้างทาง
วันนี้ มีงานปั่นจักรยานนี่เอง
เลี้ยวรถเข้ามา ก็เห็นป้ายไกลๆ
ลองขับเข้าไปดูใกล้ๆ หน่อย
ป้ายเยอะแบบนี้ เราจะไปทางไหนดี
จะเริ่มตรงไหนก่อน ไม่ได้เตรียมหาข้อมูลมาก่อนซะด้วย
เลี้ยวรถเข้าไปที่วัดก่อน
ถามผู้คนที่อยู่ในบริเวณวัด น่าจะได้ข้อมูลบ้าง
ถามได้ความว่า
ต้องเข้าไปข้างในอีก ขับต่อไปเรื่อยๆ
จะแวะไหว้พระที่วัดนี้ก่อนก็ได้
เพราะมี "พระพุทธรูป" แกะสลักจาก "ไม้" เป็นพระเก่าที่สวยงามมาก
แต่ก็ยังไม่ได้แวะเข้าไป เพราะยังร้อนใจหาข้อมูลหมู่บ้านท่องเที่ยวไหม
และแผนเรา ต้องไปต่างอำเภอ และวัดคาทอลิกอีก 2 วัดก่อน
เรากลับรถ ออกมาตั้งหลักที่ถนนใหญ่อีกครั้ง
วันนี้มีงานปั่นจักรยาน เห็นเตนท์ขายของ - เตนท์ประชาสัมพันธ์งานด้วย
แวะถามอีกที
คุณน้องที่เตนท์บอก ก็ไม่ใช่คนแถวนี้เหมือนกัน - ฮา..
แต่ก็บอกว่า อาคารที่เห็น เป็น "ศูนย์การเรียนรู้หม่อนไหม" นะ เห็นมีแค่นี้
เราก็เดินไปดู
ทำไมเป็นแบบนี้...
มีป้าย "หมู่บ้านท่องเที่ยวไหม" ด้วย
แล้วจะยังไงดีต่อหนอ...
วันนี้ อาจจะไม่มีงาน ไม่มีกิจกรรมอะไร
ก็คงจะเท่านี้ ก็คงต้องกลับ
ไปเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ต่อเนอะ
เดินออกมาก็เจอป้ายนี้ ริมทาง อยู่ตรงข้างหน้า ศูนย์การเรียนรู้ฯ
ก็เลย.. อะนะ .. ลองเข้าไปอีกที ละกัน ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว
เข้าซุ้มทางเข้าหมู่บ้านอีกครั้ง
ขับไปจนถึงป้ายบอกทางในหมู่บ้านอีกครั้ง
ขับไปเรื่อยๆ ผ่านหมู่บ้านไป จนจ๊ะกับ "รถกระสวยอวกาศ" จอดอยู่
รถเราผ่านไม่ได้ และถ้าผ่านไปแล้วจะไปทางไหน ซ้ายหรือขวา
จะมีอะไรให้พบเจอบ้าง
เก้ๆ กังๆ อยู่อย่างนั้น
เลยถอยรถ - เอาละ - วันนี้ คงไม่ได้ชมอะไร
ไว้มีโอกาสครั้งหน้า คงได้มาอีก
กำลังจะถอย ก็มี "อัศวิน" มาช่วยโบกรถให้ถอย
และก็ขอชาวบ้าน ให้ ว่าขอกลับรถหน่อย
แล้วก็ยังขอชาวบ้านอีกว่า ขอจอดสักพัก เพื่อเดินชมหมู่บ้านด้วย
ว๊าววว ...
วันนี้ ช่างเป็นวันหนึ่งทีดีของเราแท้เชียว
เมื่อได้ที่จอดรถ และจอดเรียบร้อย เราก็ยังโชคดีต่อ
เพราะ "อัศวิน" ยังอาสาจะพาเดินเที่ยวชมหมู่บ้านไหมอีก
เลยแอบเก็บภาพจากด้านหลัง เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำด้วย
"อัศวิน" ของเรา นำทางพาไปยังส่วนที่มีการจัดงาน
เพราะโชคดีของเราอีกอย่างในวันนี้ คือมี "กิจกรรมปั่นจักรยาน"
เลยมีชาวบ้าน พร้อมใจกันออกมาตั้งร้าน ขายของ ขนม ของที่ระลึก ผ้าไหม
ทำให้ หมู่บ้านท่องเที่ยวไหม ไม่เงียบเหงาจนเกินไป
ได้ชมการทำขนมสดๆ "ขนมตดหมา (เวือระพอม)" อันเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้าน
ขอไม่ Spoil ขนม ในเว็บนี้ แต่บอกคำเดียวว่า "อร่อย" ค่ะ
อยากให้หาโอกาสไปพบ ไปเจอ ไปเยี่ยมชม และไปลองชิมเองนะคะ
ชาวบ้าน ออกมาตั้งร้าน รองรับนักท่องเที่ยว และนักปั่นจักรยาน
มีขนมที่ทำกันเอง ในกลุ่มแม่บ้าน และ "ผ้าไหม" ที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน
เป็นผ้าไหมที่สวยงามมาก เนื้อเนียน สีสวย
เก็บภาพไว้ แต่ไม่ได้ลงภาพ เพราะ เจ้าของงานบอกว่า งานนี้ ลายนี้ เป็นลายใหม่
ยังไม่เคยออกงานที่ไหน ที่นี่เป็นครั้งแรก เลยอยากให้ได้ไปเยี่ยมชมที่หมู่บ้านกันเองค่ะ ^.^
ขนมนี้ เหมือนขนม ข้าวต้มมัด ที่เป็นมัดคู่ๆ
ที่นี่ก็เรียก "ข้าวต้ม" เหมือนกัน
แต่การห่อนี่ น่ารักค่ะ ชอบไอเดีย ที่ใช้ปลายของใบ เป็นที่ผูก และหูหิ้วไปในตัว - น่ารักจัง
"อัศวิน" ของเราในวันนี้ พามาส่งที่บริเวณที่ชาวบ้านออกมาตั้งร้าน
ก็เลยบอกว่า ถ้ารอได้ ขอไปตามเพื่อนๆ ที่ปั่นจักรยานก่อน แล้วจะพาชมหมู่บ้านท่องเที่ยวไหมต่อ
ได้เลยค่ะ - ขอบคุณ (ในใจ) มากมาย -
ระหว่างรอก็เลยเดินไปชมบ้านที่อยู่ใกล้ๆ ก่อน
แปลงที่ปลูกต้น "หม่อน" ใบเขียวสด สมบูรณ์ดีจัง
ดู "วิถีชีวิต" ของชาวบ้าน
สงบ เรียบๆ ดีนะคะ
ป้ายบอกตำแหน่งของหมู่บ้านท่องเที่ยวไหม ว่าตรงนี้ คืออะไร ทำอะไร
และคำว่า "ปะเตียจ๊ะ" ภาษาเขมร แปลว่า "บ้านเก่า, บ้านโบราณ"
ไม่ต้องบอกก็คงรู้นะคะ ว่า "อัศวิน" ของเรา เป็นผู้แปลความหมายให้
^.^
ตรงนี้เป็น "บ้านโบราณ" ที่อนุรักษ์ให้เห็นวิถีของชาวบ้าน
ว่าบ้านของไทย มีการก่อสร้าง รูปทรงแบบไหน
แต่ไม่มีระบุว่าเป็นยุคไหน หรือสถาปัตยกรรมแบบไหน
คงเป็น "บ้านโบราณ" ที่ปู่ย่าตายายเราเคยอยู่แบบนี้ นะคะ
บ้านยกสูง ป้องกัน น้ำหลาก หรือป้องกันสัตว์ร้ายต่างๆ
ใช้เป็นที่ทำงาน และอาจจะเป็นที่เลี้ยงสัตว์ด้วย
(มีหนังสือ "สถาปัตยกรรมพื้นถิ่นโคราชบ้านเอง"
โดย รองศาสตราจารย์กาญจนา ตันสุวรรณรัตน์)
แต่ไม่ทราบว่า จะมี "สถาปัตยกรรมพื้นถิ่น" ของจังหวัดอื่นๆ หรือไม่
ไว้มาช่วยกันค้นหานะคะ
"คุณยาย" เจ้าของบ้าน ใจดี กรุณามานั่งเป็นแบบให้
และยังเดินพาชมบ้าน อธิบายถึงส่วนต่างๆ คือห้องต่างๆ ในบ้าน
บริเวณนี้ คงเป็นโถงนั่งเล่น - ห้องรับแขก - Common Room
แล้วก็มี "สำรับ" อาหารจัดวาง บ่งบอกว่าเป็นห้องทานอาหาร ไว้ด้วย
มุมนั่งพักผ่อนของคุณยาย น่ารักจังนะคะ
ห้องนอน
ห้องครัว
คุณยาย ผู้ใจดี เปิดหม้ออบที่หุงข้าวให้ชมด้วย
ข้าวสวยหม้อนี้ "คุณยาย" บอกทานได้ 1 วันพอดี
ช่างน่ารัก ช่างพอเพียงจริงๆ นะคะ
อิจฉา ชีวิต ความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายแบบนี้จัง
ชุดห้องครัวของคุณยายก็มีเท่านี้
เครื่องปรุงก็ไม่มากมายอะไร ดีจัง
เดินชมบ้านใกล้ๆ และ "บ้านโบราณ" แล้ว
เดินกลับมาจุดที่มีออกร้านขายของ
"อัศวิน" ของเราก็กลับมา และพาไปชม จุดที่เลี้ยงไหม สาวไหม ของหมู่บ้าน
บ้านที่เป็น "ฐานสาวไหม" ให้ได้เรียนรู้
หมู่บ้านนี้ มี Homestay ด้วยนะคะ
"สราวโซดละออ" แปลว่า "สาวเส้นไหมสวย"
การ "สาวไหม" ในแบบของชาวบ้าน
ได้เส้นไหมที่สวย และสีสันก็สวยจริงๆ
สีของธรรมชาติ สดใส สวยมากเลย
คุณพี่ที่สาธิตการสาวไหม ก็ใจดี เดินพาไปชม ที่เลี้ยงไหม
จับไหม พร้อมใบหม่อน ใส่กระด้ง เก็บไว้ เป็นชั้นๆ
คลุมด้วยผ้า ให้มืดๆ ไหมจะได้ กินๆ นอนๆ ตัวโตเร็วๆ
กินๆ แล้วก็นอนๆ แบบนี้
เปรียบเทียบระหว่าง
ไหมพันธุ์พื้นบ้าน (สีขาว) กับสายพันธุ์ที่พัฒนาแล้ว (ตัวลาย)
จะมีขนาดที่โตกว่ากันเยอะเลย
ดูวิธีปิดมุ้ง แบบวิถีชาวบ้าน แค่ใช้ไม้จิ้มลูกชิ้น ขัดกับตาข่ายก็ได้แล้ว
สะดวก และง่ายดีจัง
เสร็จจากภารกิจต่างๆ ก็มาทอผ้า
ออกแบบลวดลายที่สวยงาม เป็นผ้าไหมสวยๆ ให้เลือกชม เลือกซื้อหา
แล้วทัวร์ "หมู่บ้านท่องเที่ยวไหม" ก็จบลงตรงนี้
ขอขอบคุณ "อัศวิน" ผู้ที่อาสาพาชมหมู่บ้าน
"อัศวิน" ผู้ใจดี ที่คงไม่ได้พบกันอีก
แต่จะอยู่ในความทรงจำ ที่ตรงนี้ และขอบคุณอีกครั้ง นะคะ
"หมู่บ้านท่องเที่ยวไหม สนวนนอก"
อยู่ที่ ตำบลสนวน อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ 31000
เฟสบุ๊ค "คลิก"
แผนที่ "คลิก"
แหล่งท่องเที่ยววิถีชีวิตผลิตไหมบ้านสนวนนอก มีมัคคุเทศก์ของหมู่บ้านอำนวยความสะดวกนำนักท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตผลิตภัณฑ์ไหมตั้งแต่เริ่มแรก อันได้แก่
– การปลุกหม่อน-เก็บใบหม่อน ชมและเรียนรู้การปลูกหม่อน/ชำต้นหม่อน/เก็บใบหม่อนไปเลี้ยงไหม
– การเลี้ยงไหม สาวไหม ชมและเรียนรู้การเลี้ยงไหม/ให้อาหารตัวไหม/สาวไหมจากตัวดักแด้
– การฟอก ย้อม มัดหมี่ ชมและเรียนรู้การฟอดกาวไหมออกจากเส้นไหม/การเตรียมเส้นไหมเพื่อมัดหมี่/การย้อมสีธรรมชาติ/เรียนรู้การมัดหมี่ ฟอกย้อมสีเส้นไหม
– การทอผ้าไหม ชมและเรียนรู้การทอผ้าไหม
– การแปรรูปและสร้างสรรค์ลวดลายบนผืนผ้าไหม ชมและเรียนรู้การแปรรูปผ้าไหม การเขียนลาย พิมพ์ลายต่างๆ บนผืนผ้าไหมเป็นต้น
และบ้านสนวนนอก ยังมีโฮมเสตย์สะอาดน่าอยู่ให้พักไม่น้อยกว่า 15 หลัง ค่าที่พักรวมอาหารเช้าราคาย่อมเยา
หรืออาจพักรีสอร์ทที่ทันสมัยในหมู่บ้านและในอำเภอรองรับได้ไม่น้อยกว่า 100 คน
ก่อนไป ติดต่อ เช็ควัน เวลา ถ้ามีกิจกรรมต่างๆ ในหมู่บ้านก็จะคึกครื้น
ถ้าไม่มี ก็จะได้ใช้ชีวิต วิถีชาวบ้านที่แท้จริงค่ะ
เรื่องและภาพโดย patarin_b
www.goodysite.com