ถัดจากเมือง "อินส์บรุค" ก็มาต่อที่เมือง "เวลเท็น (Welten)" ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองอินส์บรูคเท่าไหร่ มีแลนด์มาร์กที่ทุกคนแวะมาคือ "คริสตัลเวิล์ด์ของสวารอฟสกี (Swarovski Kristallwelten)"
ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1995 เพราะฉลองในวาระครบรอบ 100 ปี ของการก่อตั้ง "สวารอฟสกี้"
"สวารอฟสกี้" แรกเริ่มเป็นธุรกิจของครอบครัว โดย นายเดเนียน สวารอฟสกี้ เดินทางมาจากโบฮีเมีย (สาธารณรัฐเชคในปัจจุบัน) มาตั้งรกรากที่เมือง Welten แคว้นทีโรล ประเทศออสเตรีย
โดยนำคริสตัลไปปักเป็นเครื่องประดับบนชุดกลางคืนเพื่อเพิ่มความหรูหราและสวยงาม ต่อมาได้กลายเป็นผู้นำในวงการเลนส์กล้องจุลทรรศน์หรือกล้องส่องทางไกล ภายใต้ชื่อ Habicht
จากนั้น "สวารอฟสกี้" โด่งดังไปทั่วยุโรป และยังผลิตของขวัญและของสะสมจากคริสตัลที่มีเอกลักษณ์การออกแบบเฉพาะตัว (ข้อมูลจากเนต อ่านเพิ่มเติม "คลิก")
ที่ Swarovski Kristallwelten มีจุดที่นิยมมากคือ "ยักษ์เขียว" หน้าพิพิธภัณฑ์ The Giant ได้รับการออกแบบโดยศิลปินมัลติมีเดีย อองเดร เฮลเลอร์ (Andre Heller) เป็นรูปใบหน้าคน
มีตา คิ้ว จมูก ปาก โดยออกมาจากเนินเขาที่เขียวชอุ่ม ตรงบริเวณปากจะมีน้ำพุ และยังมีการประดับคริสตัลตรง ตา คิ้ว จมูก
จุดที่พัก มีบริการน้ำ อาหาร ด้านหน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์
ป้ายที่แพรวพราว เป็นประกายของ "คริสตัล" ผู้คนยืนรอเก็บภาพเยอะไม่แพ้ The Giant หรือยักษ์เขียว เลยค่ะ
ความงามของเพชร ของคริสตัล คือส่องมุมไหน ก็แวววาวแตกต่างกัน สวยไปทุกมุมเนอะ
สงสัยว่านี่คืออะไร??
ช่างเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม จริงๆ
ยักษ์เขียว จุดเด่นของ "สวารอฟสกี้" ที่ออสเตรีย
บริเวณด้านหน้า มีสนามเด็กเล่น ให้เด็กๆ ได้เล่นด้วย
มีชิงช้า ที่เราผู้ใหญ่ ก็ไปนั่งเล่น นั่งพักมาด้วยเหมือนกัน
ของที่ระลึก เล็กๆ.. ชิ้นที่เล็กที่ซู๊ดดดดดดดดดดด...
แหะ แหะ
เมือง Welten และที่ Swarovski Kristallwelten แห่งนี้ ก็จะเป็นที่สุดท้ายของทริป ยุโรปในครั้งนี้ ... ขับรถดิ่งกลับอิตาลี คืนรถ ส่งไกด์ แล้วจับเครื่องบินกลับบ้าน...
สักวัน คงได้มาเยือนอีกนะ...
เรื่องและภาพโดย patarin_b
www.goodysite.com