ครั้งสุดท้ายที่แวะมาก็นานพอสมควร มาเจอที่จอดรถเป็นอาคารแบบนี้ก็แปลกตาไปเลยค่ะ
แต่ร้านค้า ก็ยังตระการตา ไม่แตกต่าง ยังเยอะละลานตาค่ะ
มีของขายมากมายเลยนะคะ เลือกซื้อหา ติดมือกลับบ้านได้อย่างดีเลย
มีของขายหลากหลายอย่างจริงๆ เลยค่ะ
แม้กระทั่งอาหารทะเลแห้งด้วย
และ สุดยอดที่ขึ้นชื่อสุดๆ ของที่นี่ก็คือ "ปลาร้าทรงเครื่อง" ค่ะ มาเป็นต้องซื้อติดมือกลับบ้านค่ะ
เราเร่งเท้า ต้อนเด็กๆ ให้เดินเร็วๆ เพราะเย็นย่ำพอสมควรแล้ว กลัวจะมืดซะก่อน
จากลานจอดรถด้านหลัง ก็ต้องเดินผ่านร้านค้าต่างๆ ทั้งหมด กว่าจะมาถึงทางหน้าวัดค่ะ
แล้วก็มาถึงทางออก.. ใครอยากเสี่ยงโชค ก็ซื้อหากันได้นะคะ มีรอไว้เยอะเลย
แล้วเราก็เห็น "วัดโสธรวรารามวรวิหาร" ตระหง่าน ตระการตาอยู่ตรงหน้า ต้องข้ามถนนไป
แต่จำได้ว่า ครั้งสุดท้ายที่มา จะต้องเดินผ่านลานปูนที่กว้างใหญ่ มองเห็นตัววัดเด่นสง่ามาก
ว่าแต่มันนานแค่ไหนกันแล้วหนอ มาครั้งนี้ ดูมีสิ่งปลูกสร้างเต็มไปหมดเลย
เวลา เปิด-ปิด พระอุโบสถนะคะ จะแวะที่ไหนๆ ก็จะได้เผื่อเวลากันค่ะ
ยุคนิวนอร์มอน วิถีใหม่ของคนหลังโควิด ก็ต้องมีมาตราการป้องกัน เฝ้าระวังกันค่ะ
ดอกไม้สำหรับไหว้พระ มีพร้อมให้ค่ะ
"วัดโสธรวรารามวรวิหาร" เดิมชื่อว่า "วัดหงษ์" สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อพุทธโสธร" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.98 เมตร ฝีมื่อช่าง ล้านช้าง (วิกิพีเดีย)
ป้าย "ประวัติดของหลวงพ่อโสธร" ที่อยู่หน้าวัด
พระพุทธโสธรมีประวัติอันศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เลื่องลือด้วยว่า พระพุทธโสธรลอยตามแม่น้ำบางประกง และผุดขึ้นที่บริเวณหน้าเมืองฉะเชิงเทรา ชาวบ้านได้ประกอบพิธีอัญเชิญขึ้นฝั่ง แล้วนำมาประดิษฐานที่อุโบสถวัดโสธร เรียกกันว่า "หลวงพ่อโสธร"
พระพุทธโสธรเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองสำริดอย่างงดงาม ปางสมาธิ หน้าตักกว้างศอกเศา แต่สันนิษฐานว่า ประมาณ พ.ศ. 2313 อันเป็นสมัยต้นกรุงธนบุรี พระสงฆ์ในวัดเกรงว่าจะมีผู้มาขโมยไปจึงให้ชาวล้านนานำปูนมาพอกเสริมหุ้มองค์เดิมไว้ภายใน จนมีพุทธลักษณะดังที่ปรากฎในปัจจุบันคือเป็นพระพุทธปฏิมากร ปางสมาธิ ลงรักปิดทอง พระวรกายแบบเทวรูป พระพักตร์แบบศิลปะล้านนา พระเกตุมาลาแบบปลี ข้อพระกรขวามีกำไลรัดตรึง ทรงจีวรแนบเนื้อ มีความกว้างของพระเพลา 3 ศอก สูง 1.93 เมตร ประทับอยู่เหนือรัตนบัลลังก์ 4 ชั้น ซึ่งปูลาดด้วยผ้าทิพย์ อันมีความหมายถึงการอยู่สูงสุด เป็นพุทธเหนืออริยบุคคล 4 คือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ ประดิษฐานบนแท่นฐานชุกชีรายล้อมด้วยพระพุทธรูปปางอื่นอีก 12 องค์ ด้วยอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนทุกสารทิศจึงได้หลั่งไหลเดินทางมานมัสการกันอย่างเนืองแน่น โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดและช่วงเทศกาลแห่หลวงพ่อพุทธโสธร ซึ่งจัดขึ้นทุกปี ปีละ 3 ครั้ง ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ช่วงกลางเดือนห้า และช่วงกลางเดือนสิบสอง ตรงกับวันลอยกระทง ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของจังหวัด
เราเดินกันต่อ อ้อมมาทางด้านหลัง เพื่อจะไปยังศาลาริมแม่น้ำบางประกงค่ะ
ดูว่า พื้นที่ถูกสร้างเต็มไปหมดจริงๆ เราพยายามหามุมเก็บภาพ เพื่อให้ได้วัดเต็มๆ พร้อมยอดอุโบสถ แต่หายากจริงๆ
ดูท่าตากล้องน้อยสิคะ พยายามเก็บให้สุดยอดอุโบสถค่ะ
จากด้านหลังของอุโบสถ จะมีแนวเสาไฟ ยาวไปจนถึงศาลาริมน้ำ
ต้องเก็บภาพแนวตั้ง ถึงจะได้ยอดอุโบสถแบบนี้ แต่ก็ไม่สามารถเก็บด้านข้างของอุโบสถได้เหมือนกัน
ศาลาริมน้ำบางประกง
ศาลาริมน้ำ สวยงามมาก และลมเย็นๆ มากเช่นกัน
ปิกของศาลาทั้งด้านซ้าย ด้านขวา สวยงามมากค่ะ
นั่งเล่น รับลมเย็นๆ ของแม่น้ำบางประกง สักพักก็ได้เวลากลับค่ะ
ก๊วนป้า-หลานก็ได้เวลากลับ ... มองหลานๆ เริ่มจะโตกันแล้วเนอะ... ก็พยายามพาหลานออกนอกบ้าน ห่างเกม ห่างมือถือค่ะ สนุกสนานกันไป
"วัดโสธรวรารามวรวิหาร ฉะเชิงเทรา"
ตั้งอยู่ที่ ถนนเทพคุณากร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000
โทรศัพท์ 038 511048
เฟสบุ๊ค "คลิก"
แผนที่ "คลิก"
เรื่องและภาพโดย goodysite
www.goodysite.com
เรื่องราวเกี่ยวกับทริป "แปดริ้ว" ทั้งหมด
1. แปดริ้ว 1 สวนอินทผาลัมแปลงยาว
2. แปดริ้ว 2 วัดหัวสวน
3. แปดริ้ว 3 ร้าน มีน้ำมีปลา
4. แปดริ้ว 4 วัดโสธรวรารามวรวิหาร