กว่าจะเดินทางมาถึง ก็มืดค่ำแล้ว เลยได้แต่แวะถ่ายรูปด้านหน้าเท่านั้น
"สุสานลุงโฮ" เป็นสุสานขนาดใหญ่ ของอดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของชาวเวียดนาม ตั้งอยู่ที่กึ่งกลางจัตุรัสบาสติงห์ ซึ่งเป็นสถานที่ ที่ "โฮจิมินท์" อ่านคำประกาศอิสรภาพของเขา เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1945 ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากสุสานของเลนินในกรุงมอสโคว์ แต่รวมสถาปัตยกรรมของเวียดนามเข้าไปด้วย
บริเวณโดยรอบ ถูกแบ่งเป็นทางเดินที่ประดับด้วยดอกไม้ และต้นไม้กว่า 250 ชนิดจากทั่วประเทศเวียดนาม ภายในสุสานโฮจิมินท์ มีทหารกองเกียรติยศในชุดเครื่องแบบเต็มยศสีขาวยืนรักษาการณ์อยู่ตลอดเวลา ส่วนร่างของโฮจิมินท์ ถูกเก็บรักษาอยู่ในโลงแก้วบริเวณใจกลางสุสาน เพื่อให้ผู้เข้าชมได้รู้จักและเคารพผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเวียดนาม แต่เนื่องจากเรามาช้า เลยไม่ได้เข้าไปชมภายใน
ฝั่งตรงข้ามของสุสาน เป็นรัฐสภา
จากนั้น ก็เดินทางไปทานมื้อเย็นกัน
ผ่านเมืองที่สว่างไสว สวยงาม
จอดรถบัสริมทะเลสาบ แล้วเดินไปทานอาหารกันค่ะ
วันนี้ทานอาหารในโรงแรม ที่รู้สึกเหมือนมางานเลี้ยงเลย กิกิ
ถูกใจภาพวาดนี้ สวยจัง
อาหารอร่อยของค่ำคืนนี้
จากนั้นก็เดินทางต่อไปยัง "ถนน 36 สาย" ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน ถนนคนเดิน ช้อปปิ้ง สินค้า ขนม ของฝากต่างๆ
ตึกต่างๆ ของบ้านเมืองเค้าสวยดีนะคะ
แล้วเราก็มาถึง "ถนน 36 สาย" แล้ว ไปเดินเล่นกัน
โห.. ผู้คนอย่างเยอะ
ปิ้งย่าง ไส้กรอก ลูกชิ้น ดีสเพลย์ได้น่ารักดี
สะพานแดง ในทะเลสาบใจกลางถนน 36 สาย เป็นจุดนัดพบ ที่จะกลับมาพบกันใน 1 ชั่วโมง
เราเดินชมไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดจะซื้ออะไรเป็นพิเศษ เพราะเดินทางเปลี่ยนที่พักหลายครั้ง และน้ำหนักกระเป๋าได้ 15 กิโลกรัม มาแค่เสื้อผ้า ก็ 9 กิโลกรัมไปแล้ว ต้องระวัง
มีลานลีลาศด้วย ว๊าวววว
ดูคนสิคะ เยอะมาก จากทะเลสาบ และลานใจกลางถนน ก็จะมีถนนแยกไปตามแยกต่างๆ แบบนี้นี่เองถึงเรียก "ถนน 36 สาย"
งง เลย จะเริ่มจากตรงไหนดี เลี้ยวซอยแรกเลยละกัน
แปลกใจกับสินค้านี้
ดีไซน์สวยเชียวนะคะ
กระเป๋าถักสาน เหมือนบ้านเรา
น้ำดื่ม และลูกชิ้น คลาสสิกมาก แต่เราไม่ได้ซื้อนะ เพราะไม่อยากเปิดหน้ากาก ยังกลัวโควิด ยิ่งคนเยอะๆ แบบนี้
เดินดูร้านค้า สินค้าไปเรื่อยๆ เพลิดเพลินตา
ร้านนี้ น่าสนใจค่ะ งานตัดกระดาษ ความชอบส่วนตัว เลยสอยกลับบ้าน มา 3 ลาย มีต้นไม้ ชิงช้าสวรรค์ และเรือสำเภอ ตกชิ้นละ 40,000 ดอง ก็ประมาณชิ้นละ 60 บาท
อยากจะซื้อเยอะๆ ทุกลายเลย 555
เดินต่อไป เจอแยกอีกแล้ว
ไปซ้ายหรือขวาดีนะ แต่ร้านกาแฟที่เห็นตรงหน้านี่สิ ถูกใจชั้นสองค่ะ ถ้ามีเวลามากกว่านี้ อาจจะไปนั่ง แล้วมองผู้คน
เดินเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นคนนั่ง อย่างฟินเลย
เดินต่อไปอีก หลงเข้าไปในซอยร้านอาหาร เหมือนผับ ซึ่งคนเยอะมาก จนแทบจะเดินไม่ได้ กว่าจะหลุดออกมาได้
คลับหรูก็มี
ร้านขาย "กาแฟ" ว่าแล้วก็ยังไม่ได้ซื้อกาแฟ "G7" เลย เพราะมีชาวบ้านมาขายหน้าโรงแรม แต่ซื้อไม่ทัน ลงพรึบ หมด.. เราเลยไปซื้อที่ Duty Free ฝากน้องที่บ้าน
ที่ Duty Free ขายกล่อง 10 ซอง กล่องละ 3 ดอลล่าร์สหรัฐ ก็เท่ากับ 100 บาท ในขณะที่ขายหน้าโรงแรม กล่องละ 30 บาทเอง - อย่าหาทำ.. 555
กว่าจะหลุดจากถนนผับมาได้ ก็ได้เวลานัด 5 ทุ่มแล้ว ได้เวลากลับที่พัก แล้วต้องแพ็คของ เตรียมกลับบ้านพรุ่งนี้เช้า
ร้านค้าใกล้ๆ โรงแรมที่พัก เห็นกระป๋องน้ำ "Kombucha" แล้วนึกถึงบ้านเรา ยังไม่เห็นเป็นกระป๋องแบบนี้เลย น่าจะซื้อมาลองนะ แต่รีบๆ ไม่ทันได้ซื้อ ราคา 33,000 ดองนี่ กระป๋องละ 50 บาทนะ อดลอง
เจอขนมนี้ ดีใจ เหมือนที่ตามหา ตอนไปเที่ยวไซง่อน มีเยอะมาก ที่นี่ไม่เจอเลย มาเจอร้านของชำนี่เอง
จัดมาเล้ยยยย
ขนมนี้ก็อร่อย
ส่วนอันนี้ "ข้าวเหนียวแดง - โยเกิร์ต" มีทุกโรงแรมที่พักเลย
แล้วก็เจอแบบพกพา ว๊าวว แสดงว่าคนที่นี่ชอบกันมากเนี่ย
เราสอยกลับบ้าน จากร้านของชำข้างโรงแรมเหมือนกัน
มีคนฝากซื้อ "เม็ดบัว" แต่ไม่เจอเลย เลยฝากไกด์ซื้อให้ แพ็คกระเป๋าเสร็จ ลองยกดูแล้ว หนัก เพราะมีเบียร์ 6 กระป๋อง กิกิ
เลยต้องจัดกระเป๋าใหม่ ย้ายบางอย่างมาไว้เป้สะพายขึ้นเครื่อง ก็ยังรู้สึกหนัก หวั่นใจอยู่ พอเช็คอิน 14.9 กิโลกรัม ฟิ้ววว รอดไป คิดว่าต้องรื้อของจัดใหม่ซะแล้ว
แล้วเราก็เดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิเรียบร้อย จากการเที่ยวเวียดนาม 5 วัน 4 คืน รู้สึกอยากกลับไปใหม่ โดยเฉพาะ "ฟานซิปัน" ต้องหาโอกาสค่ะ
เรื่องและภาพโดย goodysite
www.goodysite.com
เรื่องราวในทริป "เวียดนามอีกครั้ง"
เวียดนามอีกครั้ง 1 ออกเดินทางสู่เมืองฮานอย
เวียดนามอีกครั้ง 2 ไปหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต
เวียดนามอีกครั้ง 3 เมืองซาปา
เวียดนามอีกครั้ง 4 ยอดเขา ฟานซิปัน
เวียดนามอีกครั้ง 5 ฮาลองเบย์
เวียดนามอีกครั้ง 6 สุสานลุงโฮ และถนน 36 สาย