ทริปครอบครัว ไป "แม่แจ่ม" ครั้งนี้ วันที่ 3 เราออกเดินทางจากโรงแรมแอทพิงค์นคร ห้วยแก้ว มุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ โดยจะแวะที่ "ดอยอินทนนท์" ก่อนวิ่งเส้นทางคดเคี้ยวไปแม่แจ่ม
หลังอาหารเช้า เราก็แพ็คของ เช็คเอาท์จากโรงแรม แล้วออกเดินทาง เพราะเส้นทางต้องขึ้นเขา ลงเขา คดเคี้ยว กลัวจะไปถึงมืดค่ำเกิน แล้วจุดแวะพักที่สำคัญและจำเป็นคือ "ปั๊มน้ำมัน" เพื่อเข้าห้องน้ำนั่นเอง กิกิ แล้วปั๊มน้ำมันที่หางดง ก็ทำเราทึ่ง เพราะจัดแต่งสวนหย่อมบริเวณหน้าห้องน้ำ สวยงามมาก เป็นแบบป่า มีน้ำตกและลำธารเลย ถัดจากสวนหย่อม ก็มองเห็นร้านกาแฟที่มีมุมนั่งทานน่ารักมาก มองไปชื่อร้าน "โฟตี้นาย คอฟฟิ่ (Forty Nine Coffee House)" น่ารักเชียว
จากนั้น ก็เดินทางต่อไปยัง "ดอยอินทนนท์" เราจอดรถที่ลานจอดรถเพื่อซื้อบัตรเข้า "อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์" ก่อน ได้ยินเสียงน้ำไหล เลยเดินไปดู เห็นลำธารน้ำ สวยงาม ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นลำธาร หรือแม่น้ำชื่อว่าอะไร
แล้วก็ไปซื้อบัตรเข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กันค่ะ
เมื่อซื้อบัตรเรียบร้อย เราก็วิ่งต่อขึ้นเขาไปจนถึงจุดพักรถ ที่ข้างป้าย "อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์" เพื่อพักทานมื้อกลางวันกัน เป็นร้านที่เห็นอยู่ข้างๆ ป้ายนั่นเอง
ซุ้มทานอาหารข้างๆ ป้าย อาหารอร่อยนะคะ แวะได้ ส่วนฝั่งตรงกันข้ามเป็น "หมวดทางหลวงจอมทอง - ดอยอินทนนท์" ก็มีร้านอาหารเหมือนกัน
จากจุดพักรถ ที่ทางเข้า อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เราก็เดินทางต่อไปอีก โดยแวะที่ "พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ" และ "จุดสูงสุดแดนสยาม"
"พระมหาธาตุนภเมทนีดล" และ "พระมหาธาตุนภพลภูมิสิระ" ตั้งอยู่คู่กันที่อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์ เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ที่ผู้ไปดอยอินทนนท์จะต้องแวะสักการะพระธาตุ โดยพระธาตุนี้ สร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศ ร่วมกับพสกนิกรชาวไทย โดยพระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2530 และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบเมื่อปี พ.ศ. 2535 โดยรอบบริเวณของพระธาตุฯ ทั้งสอง สามารถมองเห็นวิว ทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์ และทะเลหมอกยามเช้าได้อย่างสวยงาม
วันที่เราไป เป็นเดือนมกราคมในปีที่อากาศเย็นมาก ถูกใจกันเลย
ทิวทัศน์อันเด่นสง่าสวยงามของพระธาตุฯ ทั้งสอง
รอบบริเวณมีการจัดแต่งสวนได้อย่างสวยงาม โดย "พระมหาธาตุนภเมทนีดล" จะอยู่ทางซ้ายมือ เมื่อเราหันหน้าเข้าทางขึ้น ส่วน "พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ" จะอยู่ทางขวามือ
วันนี้ ดวงอาทิตย์ร้อนแรงก็ไม่กลัว เพราะอากาศเย็นมาก เดินเข้าที่ร่มเงา หรือร่มไม้ มีหนาวสั่น วันนี้ ไม่กล้วแดดเลย กิกิ
ผู้คนมาสักการะ พระธาตุ และชมทิวทัศน์กันไม่ขาดสาย
เก็บองศาความเย็น ไว้เป็นที่ระลึก ชอบๆๆ
สวนหย่อมบริเวณ พระธาตุฯ บนดอยอินทนนท์
จากนั้น เราก็เดินทางต่อไปยังจุด "สูงสุดแดนสยาม" ซึ่งมีความสูงถึง 2,565 เมตร เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย
จากนั้นเราก็เดินทางต่อ ไปยังเป้าหมายของวันนี้คือ "แม่แจ่ม" ซึ่งต้องผ่านเส้นทางขึ้นเขา ลงเขา คดเคี้ยว สวยงาม
เราทำเวลากันได้ตามที่กะกำหนดไว้ คือไปถึงที่พักคืนนี้ เป็นเวลาโพล้เพล้ ตะวันจะลับฟ้าพอดี เป็นเวลาที่ตะวันลับฟ้าสวยงามมาก
จุดที่แวะชมพระอาทิตย์คือ "วัดพระมารดานิจจานุเคราะห์" บ้านดินขาว อำเภอแม่แจ่ม ภาพนี้ เป็น อาคารหลังโบสถ์หลังเก่า ที่เห็นอยู่ในหุบเขาลิบๆ ส่วนที่เราแวะเป็นอาคารหลังใหม่
ที่มีพิธีฉลองเปิดวัดใหม่ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
จากเนินชมวิวพระอาทิตย์ตก มองไปยัง วัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ ที่อยู่ต่ำลงไปเล็กน้อย
รูปปั้น "แม่พระนิจจานุเคราะห์" ที่เนินชมวิว
ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าพอดี สวยงามมากๆ อากาศก็เย็นดีมากๆ เลย ทั้งผู้ใหญ่ และเด็กๆ สนุกกันใหญ่
รีบกดภาพ และดื่มด่ำกับความงาม ความเย็นของอากาศในยามอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้ากันก่อน
สวยๆๆๆ
เป็นเนินที่สวยงามมากค่ะ
อากาศดี๊ดี วิวดี๊ดี วัยรุ่นก็ฟินแบบนี้
ในขณะที่กำลังชื่นชมดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าไปนั้น มองกลับไปยังฝั่งตรงข้ามที่เป็นที่ตั้งของวัดพระมารดานิจจานุเคราะห์ ก็เป็นทึ่ง เพราะ "ดวงจันทร์" ขึ้นมาแล้ว
นี่ค่ะ "ดวงจันทร์" ดวงกลมโต โผล่พ้นยอดเขาขึ้นมาอีกทาง อย่างชัดเจน
มืดค่ำแล้ว แวะไปไหว้พระในวัดก่อน แล้วรีบไปทานมื้อเย็น เพราะอาหารเตรียมพร้อมแล้ว
ภายใน "วัดพระมารดานิจจานุเคราะห์" บ้านดินขาว สวยงามมากค่ะ
จากบริเวณหน้าวัด ที่มีสนามกีฬาให้เด็กๆ ได้มาเล่น เราก็มองเห็นบันไดเป็นทางยาวลงเขาไป ทราบมาว่าเป็นทางลงไปยัง "โรงเรียนเซนต์โยเซฟ แม่แจ่ม" อาคารที่เห็นไกลๆ ที่เด็กๆ ใช้เป็นทางขึ้น-ลงกัน แต่เราขับรถกลับลงไปค่ะ เพราะคืนนี้ เราจะพักที่โรงเรียนฯ ค่ะ
ที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟ แม่แจ่ม โดยการดูแลของมาเซอร์ คณะเซนต์ปอล เดอ ชาร์ตร มีนักเรียนประจำประมาณ 200 กว่าคน ล้วนเป็นเด็กชาวเขา
อาหารน่าทาน และอร่อยมาก ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ เติมกันสองจานเป็นอย่างต่ำ
ผู้ใหญ่ ก็ขอกินข้าวผัดของเด็กด้วย เพราะหน้าตาน่าทานมาก ทานแล้วอร่อยสุดๆ
ผลไม้ที่นำมาตบท้ายคือ "เมล่อน เปปิโน" ผลไม้พื้นเมืองที่ชาวบ้านปลูกเป็นพิชเศรษฐกิจ โดย "เมลอน เปปิโน (Pepino Melon)" เป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และไฟเบอร์สูง ผลมีผิวเรียบ ผลทรงก้นแหลมมน ที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ เมื่อผลสุกจะเปลี่ยนสีจากเขียว เป็นเหลือง หรือม่วงตามสายพันธุ์ เนื่อในนุ่มคล้านลูกแพร์ รสชาติหวานน้อยๆ สามารถทานได้ทั้งเปลือก แต่เราก็ปอกเปลือกอะ ไม่คุ้นเคย
และนี่ค่ะ ที่พักของเราคืนนี้ ทางมาเซอร์ จัดอาคารพยาบาลให้เป็นที่พักของเรา เรียกว่าใช้ทุกห้อง มากันหลายคนแบบนี้เนอะ
เตียงห้องพยาบาลเห็นๆ นอนหลับสบายดีเลย ไม่ต้องเปิดแอร์ เพราะอากาศคืนนี้ อยู่ที่ 5 องศาค่ะ อาบน้ำเย็นมีสะท้าน ใครไหวไม่อยากรอห้องที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ก็สะใจไป เพราะมีเครื่องทำน้ำอุ่นห้องเดียวค่ะ รีบเข้านอนหละ เพราะพรุ่งนี้ ต้องออกเดินทางขึ้นเขาแต่เช้า
อุทยานแห่งชาติ "ดอยอินทนนท์"
ตั้งอยู่ที่ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
แผนที่ "คลิก"
โบสถ์คาทอลิก "วัดพระมารดานิจจานุเคราะห์" บ้านดินขาว แม่แจ่ม
ตั้งอยู่ที่ ตำบลปางหินฝน อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ 50270
แผนที่ "คลิก"
ร้านกาแฟ "Forty Nine Coffee House"
ตั้งอยู่ที่ 49 หมู่ 12 ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ 50230
โทรศัพท์ 092-883-6294
แผนที่ "คลิก"
โรงเรียน "เซนต์โยเซฟ แม่แจ่ม"
ตั้งอยู่ที่ ตำบลปางหินฝน อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ 50270
โทรศัพท์ 081-921-1312
แผนที่ "คลิก"
เรื่องและภาพโดย goodysite
www.goodysite.com
เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับทริปนี้
แม่แจ่ม 1 Day1 ออกเดินทาง
แม่แจ่ม 2 Day 2 เที่ยวเมืองเชียงใหม่
แม่แจ่ม 3 Day 3 เดินทางสู่แม่แจ่ม
แม่แจ่ม 4 Day 4 พิธีฉลองเปิดวัดใหม่
แม่แจ่ม 5 Day 5 ช่วงกลางวัน
แม่แจ่ม 6 Day 5 ถึงลำปาง
แม่แจ่ม 7 Day 6 กลับ กทม